เบื้องหลังเพลงดัง

17/05/2009 View: 32,827

Both side now
Joni Mitchell

Rows and floes of angel hair
And ice cream castles in the air
And feather canyons everywhere
I’ve looked at clouds that way

But now they only block the sun
They rain and snow on everyone
So many things I would have done
But clouds got in my way
I’ve looked at clouds from both sides now
From up and down, and still somehow
Its cloud illusions I recall
I really don’t know clouds at all

Moons and junes and ferris wheels
The dizzy dancing way you feel
As every fairy tale comes real
I’ve looked at love that way

But now its just another show
You leave em laughing when you go
And if you care, don’t let them know
Don’t give yourself away

I’ve looked at love from both sides now
From give and take, and still somehow
Its loves illusions I recall
I really don’t know love at all

Tears and fears and feeling proud
To say I love you right out loud
Dreams and schemes and circus crowds
I’ve looked at life that way

But now old friends are acting strange
They shake their heads, they say I’ve changed
Well somethings lost, but somethings gained
In living every day

I’ve looked at life from both sides now
From win and lose and still somehow
It’s lifes illusions I recall
I really don’t know life at all
I’ve looked at life from both sides now
From up and down, and still somehow
Its lifes illusions I recall
I really don’t know life at all ….

บางครั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามองเห็นขณะนั้นอาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดของสิ่งนั้นที่เราสามารถสัมผัสได้ ... เพลง Both side now ที่แต่งโดย Joni Mitchell นี้ บอกให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเป็นไปในสิ่งต่างๆ ที่มักจะมีสองด้านเสมอ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่มีการเปลี่ยนแปลง ความรัก และชีวิต ที่ทำให้เราได้รู้ซึ้งถึงความเป็นไปทั้งสองด้าน ที่มักจะมีขึ้น มีลง มีความไม่แนอนในสิ่งที่เราประสบอยู่ การได้รับรู้ถึงบทเพลงนี้ เสมือนเป็นข้อเตือนใจในการใช้ชีวิต และการดำรงอยู่ ที่บางครั้งเราไม่สามารถอาจคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปภายหน้า วันนี้เรากำลังมีความสุขกับชีวิต โดยลืมคิดไปว่าอีกด้านของชีวิตย่อมต้องพบกับความทุกข์ ขณะที่เรากำลังมีความรักที่สดใส เราก็มักจะลืมนึกถึงความสูญเสียและความเจ็บปวดจากความรัก ซึ่งบทเพลงนี้ได้สะท้อนออกมาได้อย่างสวยงาม โดยการเปรียบเทียบกับธรรมชาติของก้อนเมฆ ที่บางครั้งก็บดบังแสงอาทิตย์ กลายเป็นหิมะ กลายเป็นฝน แล้วก็กลายไปเป็นเมฆอีกที เหมือนกับความไม่แน่นอนของเรื่องชีวิต และความรัก ซึ่งบางครั้งความมีเหตุผล ความฉลาดปราดเปรื่องของมนุษย์ในยุคปัจจุบันก็ยังไม่สามารถทำนายถึงความเป็นไป และไม่สามารถที่จะกำหนดสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นได้ หรือในอีกแง่มุม เรากำลังหลงอยู่ในด้านที่เราพอใจเท่านั้นโดยไม่สนใจอีกด้านหนึ่ง เหมือนกับคนที่เปิดใจมองแต่ด้านที่สวยงามเท่านั้น จนกลายมาเป็นประโยคสุดท้ายของเพลงที่ว่า I really don’t know life at all…………….

ประวัติ Joni Mitchell

Joni Mitchell เกิดวันที่ 7 พ.ย. 1943 ปัจจุบันเธออายุ 65 ปี เธอเป็นศิลปินวาด ภาพ และเริ่มต้นอาชีพนักร้องที่ประเทศแคนาดาซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ ในช่วงกลางทศวรรศ ของปี 1960 เธอจากบ้านเกิดไปยัง เมืองนิวยอร์ค และเริ่มทำงานเพลง โฟล์คซอง และ ได้รับชื่อเสียงเป็นอย่างมากในฐานะนักเขียนเพลง อันได้แก่เพลง “Urge for Going”, “Chelsea Morning” , “Both Side Now”, “Wood Stock” หลังจากนั้นเธอก็เริ่มต้นเป็นศิลปินเดี่ยว และได้ตั้งรกรากที่ Sountern California เธอได้เริ่มต้นผลงานเพลงของเธอใน สไตล์ Folk Rock และผลงานอัลบั้มชุด Blue ที่ได้ออกในปี 1971 ได้ถูกกล่าวถึงว่าเป็น อัลบั้มที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการดนตรีในขณะนั้น. Mitchell ยังมีอัลบั้ม Pop hits อีกหลายชุด “Big Yellow Taxi”, “Free man in Paris” และเพลง “Help me” ซึ่งอัลบั้มสองชุดนั้นในปี 1974 ถูกเลือกให้เป็นเพลงที่มียอดขายยอดเยี่ยม

Michell มีเสียงร้องในโทน Soprano และมีการขับร้องผสมผสานกับกีตาร์ของเธอได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงการใช้เสียงเปียโนแทรกไปในบทเพลง ซึ่งในผลงานเพลงของเธอมีความซับซ้อนในด้านดนตรีมากขึ้น ในปี 1970 ซึ่งเธอได้รับอิทธิพลจากงานเพลงแนว Jazz ซึ่งสะท้อนออกมาในงานเพลงของเธอในอัลบั้มชุด Hehira ในปี 1976 Michell มีโอกาสได้ทำงานเพลงอย่างใกล้ชิดกับศิลปิน Jazz ที่ยอดเยี่ยมหลายต่อหลายคน เช่น Wayne Shorter , Jaco Pastorius, Herbie Hancock รวมถึง Charles Mingus ซึ่งอัลบั้มที่ทำงานรวมกับเขา ในปี 1979 ได้นำออกมาแสดงหลังจากการเสียชีวิตของเขา. ในช่วงปี 1980 Mitchell ได้ออกทัวร์ไปตามสถานที่ต่างๆ และได้กลับมาทำการบันทึกงานเพลงของเธออีกครั้งในแนวบ๊อป และได้ใช้ ซินธีไซเซอร์ มาช่วยในงานเพลงของเธอ โดยเนื้อเพลงของเธอจะพูดเกี่ยวกับเรื่อง ของการแสดงความคิดเห็นในการคัดค้าน การประท้วงรัฐ ในเรื่องของการปกป้อง สังคม และสิ่งแวดล้อม ในแนวทางเพลงที่โรแมนติคและ เต็มไปด้วยอารมณ์ศิลปินของเธอ ผลงานของ Michell นั้นได้รับความยกย่องอย่างสูง ในด้านคำวิจารณ์ และ ยอมรับอย่างมากในกลุ่มนักดนตรีด้วยกัน โดย Rolling Stone Magazine ได้กล่าวถึงเธอไว้ว่า “ One of the greatest song writers ever”, ใน ขณะที่ Allmusic ได้กล่าวว่า “ When the dust settles, Joni MIchell may stand as the most important and influential female recording artist of the late 20^th century”

ในช่วงปลาย ศตวรรษที่ 20 Joni Mitchell มีอิทธิพลอย่างสูงต่อกลุ่มศิลปินแนวเพลง R&B และ Alternative Rock และรวมถึงแนว Jazz อีกด้วย อีกทั้งเธอยังเป็น ศิลปินวาดภาพที่มีจินตนาการสูง เธอได้ทำงาน Art Work ให้กับทุกปกอัลบั้มของเธออีกด้วย และในปี 2000 เธอได้อธิบายตัวตนของเธอคือ “painter derailed by circumstantce” ภายหลังจากนั้น เกิดวิกฤตในอุตสาหกรรมเพลง เธอจึงได้หยุดการทำงานเพลงหันไปสู่งานด้านศิลปะ และในปี 2007 ได้ออกผลงานเพลงชุดใหม่ที่ชื่อว่า Shine หลังจากที่เธอห่างหายไปนานกว่า 9 ปี.

References

JoniMitchell.com - Biography
The Rolling Stone 500 Greatest Albums of All Time (Blue is listed at #30)
Wild, David (2002-10-31). "Joni Mitchell" (reprint). Rolling Stone. http://jmdl.com/library/view.cfm?id=935. Retrieved on 2007-03-09.
allmusic ((( Joni Mitchell > Biography )))
Interview with the Toronto Globe and Mail
Irish Times Magazine, p 14, 19 July, 2008
Crowe, Cameron (1979-07-26). "Joni Mitchell" (reprint). Rolling Stone. http://www.cameroncrowe.com/eyes_ears/articles/crowe_jrl_joni_mitchell.html. Retrieved on 2007-03-09.

เขียน แปล เรียบเรียง บทความ โดย : Tippatee